Posts

การทักทายเมื่อได้รับการแนะนำให้รู้จักกันเป็นภาษาอังกฤษ

การทักทายเมื่อได้รับการแนะนำให้รู้จักกันเป็นภาษาอังกฤษ จะใช้ เมื่อมีการแนะนำให้รู้จักกันโดยจะมี คำกล่าวทักทายแสดงถึงความดีใจ หรือประทับใจ ที่ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ เช่นเพื่อนของท่านอาจแนะนำให้ท่านรู้จักกับเพื่อนของเขาอีกคนหนึ่ง เมื่อเพื่อนของท่านได้แนะนำให้รู้จักกันแล้วท่านกับเพื่อนของเพื่อนท่านก็จะกล่าวทักทายซึ่งกันและกันด้วยประโยคสั้นๆง่ายๆแต่ได้ใจความและเป็น รูปแบบการทักทายเมื่อได้รับการแนะนำให้รู้จักกันในภาษาอังกฤษ ซึ่งก็มีทั้ ง การทักทายแบบที่เป็นกันเองหรือแบบไม่เป็นทางการ และ การทักทายแบบที่ใช้เป็นทางการ ที่ท่านสามารถจำและนำไปใช้ได้ดูตัวอย่างการทักทายในสถานการณ์์ดังกล่าวได้ด้านล่างครับ การทักทายเมื่อได้รับการแนะนำให้รู้จักกันเป็นภาษาอังกฤษ แบบทั่วไป ตัวอย่าง เช่น James เพื่อนของ John แนะนำให้ John รู้จักกับ Jan James : John, this is Jan from America.  จอหฺน, ดิซ อิซ แจน ฟรอม อเมริกา (จอห์น นี่แจนมาจากอเมริกา) John : Hi, nice to meet you.  ไฮ, ไนสฺ ทู มีท ยู (หวัดดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ) Jan : Hi, nice to meet you too.  ไฮ, ไนสฺ ทู มีท ยู ทู (หวั

Seasonal Greetings การทักทายตามฤดูกาลหรือเทศกาลต่างๆในภาษาอังกฤษ

ในภาษาอังกฤษนอกจากจะมีการทักทายกันตามปกติ ทั่วๆไป ทั้ง แบบเป็นทางการและแบบไม่เป็นทางการ หรือกับเพื่อนสนิทแล้ว ยังมี การทักทายกันตามฤดูกาลหรือเทศกาลต่างๆ หรือ  Seasonal Greetings=ซีเซอเนิล กรีทติงสฺ ด้วย  ซึ่งคนชาติอื่นเกือบทั่วโลกในปัจจุบันได้นำมาใช้ทักทายเช่นเดียวกัน ไม่ว่า จะเป็นวันสำคัญต่างๆ หรือเทศกาลต่างๆ เช่น วันขึ้นปีใหม่ New Year=นิว เยียรฺ  เทศกาล Easter=อีซเทอะ  หรือ Christmas=คริสทฺมาส การทักทายตามฤดูกาลหรือเทศกาลต่างๆ ในภาษาอังกฤษ เหล่านี้เป็นการพูดทักทายกันแบบง่ายๆสั้นๆไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก ตัวอย่างเช่น ในเทศกาล Easter ที่มีขึ้นในวันที่ 1 มีนาคมของทุกปี เมื่อเจอกันก็จะมีการทักทายกันว่า Happy Easter=แฮปปิ อีสเทอรฺ (สุขสันต์วันอีสเทอร์)  ง่ายๆสั้น และจะตามด้วยชื่อคนที่ท่านทักทาย ดู คำทักทายตามฤดูกาลและเทศกาลต่างๆ ได้ด้านล่างครับ การทักทายตามฤดูกาลหรือเทศกาลต่างๆในภาษาอังกฤษ 1 ตัวคุณ   Happy Easter, Sam.  แฮปปิ อีสเทอรฺ, แซม (สุขสันต์วัน อีสเตอร์ แซม) คู่สนทนา Thanks. You, too.  แธงคฺส ยู, ทู (ขอบใจมาก ขอให้เธอมีความสุขเช่นกัน) 2 ตัวคุณ Happy new year, Jan

การพูดทักทายเพื่อนสนิทที่ไม่เจอกันมาระยะหนึ่ง

การพูดทักทายกับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมาระยะหนึ่งในภาษาอังกฤษ มีลักษณะคล้ายกับการ พูดทักทายในชีวิตประจำวันแบบไม่เป็นทางการ เพียงแต่มีรายละเอียดในการถามไถ่ข่าวคราว สุขภาพ ความเป็นอยู่เพิ่มเข้ามา ท่านอาจนำการพูดทักทายในลักษณะนี้ไปใช้กับเพื่อนหรือคนรู้จักที่สนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่จู่ๆเขาก็หายหน้าหายตาไปหลายวันหรือสักระยะหนึ่ง แล้วเผอิญมาเจอกันอีกที ซึ่งส่วนมากจะเป็นการพูดในลักษณะการถามไถ่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ไปทำอะไรมา หรือไปอยู่ที่ไหนมาไม่เห็นหน้าเสียนานอะไรประมาณนี้ ดูตัวอย่างบทสนทนาได้ด้านล่างครับ ตัวอย่างการพูดทักทายเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมาระยะหนึ่งในภาษาอังกฤษ ตัวคุณ Hi, Mike. I haven’t seen you for a long time. How are you feeling today?  ไฮ, ไมคฺ ไอ แฮฟวึนทฺ ซีน ยู ฟอรฺ อะ ลอง ไทมฺ ฮาว อารฺ ยู ฟีลลิง ทูเดยฺ? (อ้าว ไมค์ ไม่เจอกันเสียนาน เป็นอย่างไรบ้าง?) คู่สนทนา Not very well. I've got a terrible headache because I stayed up late last night.  น็อท เวริ เวล ไอฟฺว ก็อท อะ เทอเร็อเบิล เฮดเอ็กชฺ บีคอซ ไอ สเตดฺ อัพ เลท ลาสทฺ ไนทฺ (ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่

การพูดทักทายอย่างเป็นทางการในภาษาอังกฤษ

นอกจากท่านจะสามารถ ใช้คำว่า Hello=เฮลโล (สวัสดี), Hi=ไฮ (สวัสดี)  ในการทักทายทั่วๆไปแบบไม่เป็นทางการ แล้ว ถ้าท่านต้องการจะพูดยาวกว่านั้น หรือ  อาจเป็นการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเพิ่มเติม ใน ภาษาอังกฤษ ก็จะมีคำที่ใช้ทักทายกันในช่วงเวลาต่างๆที่แตกต่างกันไป ถือว่าเป็น คำพูดทักทายที่เป็นทางการในภาษาอังกฤษ  ซึ่งตรงนี้มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นนิดหน่อย เช่น 1 Good morning. กุด มอรฺนิง (สวัสดี (ตอนเช้า)              2 Good afternoon.  กุด อาฟเทอะนูน (สวัสดี (ตอนบ่าย หลังเที่ยง)                             3 Good evening.                            กุด อีฟวฺนิง                         (สวัสดี (ตอนเย็น จนถึงก่อนเข้านอน)                         4 Good night.                           กุด ไนทฺ                       (ราตรีสวัสดิ์ หรือฝันดี (ใช้พูดเมื่อจะเข้านอนตอนกลางคืน)                          การ พูดประโยคทักทายเป็นทางการและการถามทุกข์สุข                      Good morning, MR. James. How are you today?                           กุด มอรฺนิง, มิสเตอรฺ เจมสฺ ฮาว อารฺ ยู ท

การพูดทักทายในชีวิตประจำวันเป็นภาษาอังกฤษ

การพูดทักทายในชีวิตประจำวันเป็นภาษาอังกฤษ จะเป็นการพูดประโยคง่ายๆสั้นซึ่งท่านสามารถจำเอาไปใช้ได้ไม่ยาก สำหรับ การพูดทักทายในชีวิตประจำวัน  ท่านสามารถพูดง่ายๆด้วยคำว่า Hello=เฮลโล  หรือคำว่า Hi=ไฮ  ซึ่งทั้งสองคำนี้มีความหมายเหมือนกันว่า "สวัสดี" การใช้คำสองคำนี้ ทักทายกันในภาษาอังกฤษ เราจะใช้เมื่อผู้ที่เราทักทายสนิทสนมกับเราสักหน่อยหรืออาจจะเป็นเพื่อนเรา ถ้าเป็นคนไม่สนิทหรือกับคนทั่วไปก็อาจกล่าวทักทายเพียงคำว่า " Hello"  สั้นๆเท่านั้นได้เหมือนกัน แต่คำว่า "Hi" อาจฟังดูห้วนๆหากเราใช้พูดทักทายกับคนที่เราไม่รู้จักมาก่อนฉะนั้นจึงไม่ควรใช้คำนี้กับคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน กล่าวง่ายๆก็คือการทักทายด้วยคำดังกล่าวเป็นการทักทายในแบบที่ไม่เป็นทางการนั่นเอง เช่น Hello, Jib. How are you?  เฮลโล, จิ๊บ ฮาว อารฺ ยู? (หวัดดี จิ๊บ เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม?) I am very well. Thank you. And you?  ไอ แอม เวริ เวล แธงคฺ กิว แอน ยู? (สบายดี ขอบใจจ้ะ แล้วเธอล่ะ) I am fine. Thank you.  ไอ แอม ไฟนฺ แธงคฺ กิว (เราก็สบายดี ขอบใจจ้ะ) ท่านสามารถนำ คำพูดทักทายภาษาอังกฤษสั

การพูดประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย How?

เราสามารถ พูดประโยคคำถามภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วย How? ในหลายสถานการณ์และหลายความหมาย เพราะ How มีความหมายได้หลายอย่าง ความหมายของ How ก็คือ เท่าไหร่ อย่างไร ลักษณะใด ท่านอาจจะ พูดประโยคคำถามโดยใช้ how? ว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ราคาเท่าไหร่ จากที่นี่ไปที่นั่นไกลแค่ไหน คนนั้นคนนี้เป็นอย่างไร อายุเท่าไหร่ รวมถึงถามเรื่องสารทุกข์สุขดิบก็ได้ เช่น วันนี้คุณเป็นอย่างไรบ้างสบายดีไหม เป็นต้น ข้างล่างเป็นตัวอย่าง การพูดประโยคคำถามในภาษาอังกฤษโดยการใช้ How? เป็นคำถาม 1 How are you today? ฮาว อารฺ ยู ทูเดยฺ? (วันนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง) I am fine.  ไอ แอม ไฟนฺ (ผมสบายดี?) 2 How old is your daughter?  ฮาว โอลดฺ อิซ ยัวรฺ ดอเทอะ? (ลูกสาวคุณอายุเท่าไหร่แล้ว?) She is two years old.  ชี อิซ ทู เยียรฺซ โอลดฺ (เธออายุสองขวบแล้วล่ะ) 3 How much does this mobile phone cost? ฮาว มัช ดาซ ดิซ โมบายลฺ โฟน คอสทฺ? (โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ราคาเท่าไหร่?) It costs just only 1,000 Baht.  อิท คอสทฺส จัสทฺ โอนลิ วันทาวซันดฺ บาท (แค่ 1,000 บาทเอง) 4 How many people are there in your family? 

การใช้ Why ในประโยคคำถามภาษาอังกฤษ?

การพูดประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย why=วาย(ทำไม)? ใน ภาษาอังกฤษ จะใช้เมื่อผู้พูดต้องการทราบถึงสาเหตุหรืออยากทราบเหตุผล เช่น ผู้ถามอาจต้องการทราบว่าทำไมทำอย่างนั้นทำไมทำอย่างนี้ ทำไมพูดอย่างนั้นทำไมพูดอย่างนี้ หรือทำไมไม่ทำอย่างนั้นทำไมไม่ทำอย่างนี้ ส่วนผู้ตอบก็จะตอบโดยแสดงเหตุผลว่าทำไมเขาทำอย่างนั้นหรือพูดอย่างนั้น  ดูตัวอย่าง การพูดประโยคคำถามในภาษาอังกฤษโดยใช้ why? ได้ด้านล่างครับ การพูดประโยคคำถามภาษาอังกฤษโดยใช้ why? 1 why were you absent from work yesterday?  วาย เวอรฺ ยู แอ็บเซนทฺ ฟรอม เวิร์ค เย็สเทอะเดยฺ? (เมื่อวานทำไมคุณไม่มาทำงานครับ?) Because I was sick.  บีคอซ ไอ ว็อซ ซิค (เพราะผมไม่สบายครับ) 2 why do you love Thailand? วาย ดู ยู เลิฟวฺ ไทแลนดฺ? (ทำไมคุณถึงรักเมืองไทยครับ?) I love Thailand  because of its friendly people and fascinating tourist attractions. ไอ เลิฟวฺ ไทแลนดฺ บีคอซ อ็อฟ อิทซ เฟรนดฺลิ พิเพิล แอน แฟสซิเนทธิง ทัวริสทฺ อแทรคชึนสฺ (ผมรักเมืองไทยเพราะผู้คนมีมิตรไมตรีและมีสถานที่เที่ยวน่าตื่นตาตื่นใจมากมายครับ) 3 why don’t you speak Thai?