Posts

เมื่อจะพูดว่า อยากรู้อยากเห็นหรือสอดรู้สอดเห็น ใช้ curious

เมื่อจะพูดว่า อยากรู้อยากเห็นหรือสอดรู้สอดเห็น ใช้ curious By Natdanai Siammai Curious = คิวเรียส เป็นคำคุณศัพท์ แปลว่า อยากรู้อยากเห็นหรือชอบสอดรู้สอดเห็น เวลาพูดและเขียนจะใช้ตามหลัง verb to be (is, am, are, was, were, been) และใช้นำหน้าคำนาม นอกจากจะมีความหมายว่าอยากรู้อยากเห็นหรือชอบสอดรู้สอดเห็นแล้ว ยังมีความหมายว่า แปลก ประหลาด ผิดปกติ น่าสนใจ ได้อีกด้วยซึ่งเป็นกลุ่มคำที่มีความหมายคล้ายๆกัน สามารถใช้ได้เมื่อต้องการพูดว่า ใครอยากรู้อยากเห็นหรือชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องอะไรก็ตาม หรือใครคนหนึ่งเป็นคนอยากรู้อยากเห็นชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านก็ได้ มาดูการใช้กันเลยครับ 1 My daughter is curious about everything. ไม ดอเธอะ อิซ คิวเรียส อะเบาท์ เอฟวรีธิงก์ ( ลูกสาวฉันอยากรู้อยากเห็นไปเสียทุกอย่าง ) 2 Jane is curious to know Jim’s secret. เจน อิซ คิวเรียส ทู โนว์ จิมส์ ซิเครท ( เจนต้องการสอดรู้สอดเห็นความลับของจิม ) 3 My son is such a curious boy, always asking questions. ไม ซัน อิซ ซัช อะ คิวเรียส บอย ออลเวย์ส อาสกิง เควสเชินส์ ( ลูกชายฉันช่างเป็นเด็กอยากรู้อยากเห็นเ

เมื่อจะพูดว่า ถูกห้ามออกนอกบ้านหรือที่พัก ใช้ curfew

  เมื่อจะพูดว่า ถูกห้ามออกนอกบ้านหรือที่พัก ใช้ curfew By Natdanai Siammai Curfew = เคอฟิว แปลว่า การห้ามประชาชนออกนอกบ้านในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งมักจะเป็นเวลายามค่ำคืน คำนี้แน่นอนว่าจะใช้โดยรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจใช้กฎหมายปกครองบ้านเมือง ในปัจจุบันคำนี้มักใช้ทับศัพท์เป็นภาษาอังกฤษโดยไม่ได้แปลเป็นภาษาไทยแต่อย่างใด ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจกันทุกคนว่าเมื่อมีการประกาศเคอร์ฟิวก็คือการห้ามออกนอกบ้านหรือสถานที่พักในยามวิกาล สำหรับในภาษาอังกฤษคำนี้ใช้เป็นคำนาม ดูการใช้ได้ดังนี้ครับ 1 The military government   imposed a dusk to dawn curfew. เดอะ มิลว์ลิเทอรี กัฟว์เวอร์เมินท์ อิมโพสท์ อะ ดัสก์ ทู ดอว์น เคอร์ฟิว ( รัฐบาลทหารประกาศห้ามออกจากบ้านในเวลาย่ำค่ำไปจนถึงรุ่งเช้า ) 2 You must reach the hotel before curfew. ยู มัสท์ รีช เดอะ โอเทล บีฟอร์ เคอร์ฟิว ( คุณต้องมาถึงโรงแรมก่อนเวลาเคอร์ฟิว ) Curfew ในประโยคที่ 1 เป็นคำนามทำหน้าที่เป็นกรรมของกริยา impose ที่อยู่ในประโยครูป active voice และ past simple tense Curfew ในประโยคที่ 2 เป็นคำนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมของบุพบท before ซึ่งอยู่ใน

เมื่อจะพูดว่า รักษาให้หายป่วยหรือรักษาโรค ใช้ cure

เมื่อจะพูดว่า รักษาให้หายป่วยหรือรักษาโรค ใช้ cure By Natdanai Siammai Cure = คิวเออะ เป็นได้ทั้งคำนามและคำกริยา ในฐานะคำกริยา แปลว่า รักษาให้หายจากอาการป่วยหรือโรคต่างๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ในการรักษาอาการไม่สบายของทั้งคนและสัตว์ นอกจากนี้คำนี้ยังสามารถใช้ได้ในความหมายว่า แก้ไขปัญหาบางอย่าง และ ถนอมอาหารได้อีกด้วยซึ่งมีความหมายเหมือนกับคำว่า preserve และ keep สำหรับในความหมายถนอมอาหาร มาดูตัวอย่างการใช้ cure กันครับ 1 You will be quickly cured of your cold by this medicine. ยู วิลว์ บี ควิกลิ คิวเออะด์ อ็อฟ ยัวร์ โคลด์ ไบ ดิส เมดดิซิน ( ยานี้จะรักษาไข้หวัดของคุณอย่างรวดเร็ว ) 2 James finally can cure the rattling noise in his car. เจมส์ ไฟเนิลลิ แคน คิวเออะ เดอะ แรทลิง นอยซ์ อิน ฮิซ คาร์ ( ในที่สุดเจมส์ก็สามารถแก้ปัญหาเสียงรบกวนในรถของเขาได้สำเร็จ ) 3 Only time can cure her of her sorrow. โอนลิ ไทม์ แคน คิวเออะ เฮอร์ อ็อฟ เฮอร์ ซอร์โรว์ ( เวลาเท่านั้นที่สามารถบำบัดความโศกเศร้าของเธอได้ ) 4 For this disease, the cure may take long time. ฟอร์ ดิส ดิซีส เดอะ คิวเออะ เ

เมื่อจะพูดว่า ควบคุม ระงับ ยังยั้งไม่ให้บางอย่างเกิดขึ้นหรือดำเนินต่อไป ให้ใช้ curb

By  Natdanai Siammai   เมื่อจะพูดว่า ควบคุม ระงับ ยังยั้งไม่ให้บางอย่างเกิดขึ้นหรือดำเนินต่อไป ให้ใช้ curb Curb = เคิร์บ เป็นได้ทั้งคำนามและคำกริยา ในฐานะคำกริยา แปลว่า ควบคุม ระงับ ยับยั้งไม่ให้บางสิ่งเกิดขึ้นหรือดำเนินต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ไม่ดี ไม่น่าปรารถนา คำนี้มีความหมายเหมือนกับคำว่า restrain และ control มาดูตัวอย่างการใช้กันดีกว่าครับ 1 You need to learn to curb your temper when you are angry. ยู นีด ทู เลิร์น ทู เคิร์บ ยัวร์ เทมเปอะ เว็น ยู อาร์ แองกริ ( คุณต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ตนเองเมื่อคุณโกรธ ) 2 All nations should work together to curb air pollution. ออล เนเชินส์ ชุด เวิร์ก ทูเก็ทเธอะ ทู เคิร์บ แอร์ พอลลูเชิน ( ทุกประเทศควรร่วมแรงรวมใจกันควบคุมมลพิษทางอากาศ ) Curb ในประโยคที่ 1 อยู่ในรูป infinitive, active voice และ present simple tense ซึ่งบอกถึงความเป็นจริงโดยทั่วไป หรือเหตุการณ์ปัจจุบัน Curb ในประโยคที่ 2 ก็อยู่ในรูปกริยา infinitive, active voice และ present simple tense หมายเหตุ infinitive คือ กริยาที่มี to นำหน้าทำหน้าที่ได้หลากหลาย และเป็

เมื่อจะพูดว่า กอด โอบกอด หรือนอนกอดกัน ให้ใช้คำว่า cuddle

  เมื่อจะพูดว่า กอด โอบกอด หรือนอนกอดกัน ให้ใช้คำว่า cuddle By Natdanai Siammai Cuddle = คัดเดิล เป็นได้ทั้งคำนามและคำกริยา ในฐานะคำกริยามีความหมายว่า กอด โอบกอด นอนกอด ซึ่งสามารถใช้ได้ในสถานการณ์การแสดงความรักแก่กันและกันด้วยการกอด คำนี้มีความหมายเหมือนกับคำว่า hold, hug และ embrace ทำให้เราสามารถเลือกใช้คำได้หลากหลาย ไม่ซ้ำซากจำเจกับการใช้คำเดิมๆ อีกต่อไป และทำให้คำพูดและผู้พูดดูมีเสน่ห์และน่าสนใจเพิ่มขึ้น คำกริยา cuddle อาจมีกรรมหรือไม่มีกรรมตามหลังก็ได้ แล้วแต่บริบทการใช้ครับ ดูตัวอย่างการใช้กันเลยครับ 1 A couple of teenagers are kissing and cuddling on the doorstep. อะ คัพเพิล อ็อฟ ทีนเอจเจอร์ส อาร์ คิซซิงก์ แอนด์ คัดดลิง ออน เดอะ ดอร์สเต็ป ( วัยรุ่นคู่หนึ่งกำลังกอดจูบกันอยู่ที่หน้าประตู ) 2 The little girl cuddles her doll close. เดอะ ลิตเติล เกิร์ล คัดเดิลส์ เฮอร์ ดอล โคลซ ( เด็กหญิงตัวเล็กๆ คนนั้นกอดตุ๊กตาของเธอเอาไว้แน่น ) 3 they cuddled up together under the blanket. เดย์ คัดเดิลด์ อัพ ทูเก็ทเธอะ อันเดอร์ เดอะ แบลงคิท ( พวกเขานอนกอดกันใต้ผ้าห่ม ) Cuddle

เมื่อจะพูดว่า ร้องไห้ ตะโกน ให้ใช้ cry

  เมื่อจะพูดว่า ร้องไห้ ตะโกน ให้ใช้ cry By Natdanai Siammai Cry = ไคร เป็นได้ทั้งคำนาม และคำกริยา ในฐานะคำกริยาใช้ได้ในความหมายว่า ร้องไห้ ซึ่งเป็นอาการที่มีน้ำใสๆ ไหลออกจากตานั่นเอง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในความหมายว่า ตะโกน เหมือนกับคำว่า shout, yell และ cry out ได้อีกด้วยครับ ลองมาดูตัวอย่างการใช้คำว่า cry ในฐานะคำกริยากันครับ 1 It is all right. Do not cry. อิท อิซ ออล ไรท์ ดู น็อท ไคร ( ไม่เป็นไรนะ อย่าร้องไห้ ) 2 The baby is crying for its mother. เดอะ เบบิ อิซ ไครอิง ฟอร์ อิทซ์ มาเธอะ ( เด็กทารกคนนั้นกำลังร้องหาแม่ ) 3 She ran to my home and cried for help. ชี แรน ทู ไม โฮม แอนด์ ไครด์ ฟอร์ เฮลพ์ ( เธอวิ่งมาที่บ้านฉันและตะโกนขอความช่วยเหลือ ) Cry ในประโยคที่ 1 อยู่ในรูป active voice และ present simple tense นอกจากนี้ยังเป็นประโยคคำสั่ง หรือขอร้อง หรือปลอบใจในที่นี้ Cry ในประโยคที่ 2 อยู่ในรูป active voice และ present continuous tense ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการเติม ing ที่ท้ายคำ cry บอกให้รู้ถึงว่าเหตุการณ์นั้นกำลังดำเนินอยู่ Cry ในประโยคที่ 3 อยู่ในรูป

เมื่อจะพูดว่า ข้ามสะพานข้ามถนน นั่งไขว่ห้าง และนั่งขัดสมาธิ ให้ใช้ cross

 By Natdanai Siammai เมื่อจะพูดว่า ข้ามสะพานข้ามถนน นั่งไขว่ห้าง และนั่งขัดสมาธิ ให้ใช้ cross Cross = ครอส เป็นได้ทั้งคำนาม คำคุณศัพท์ และคำกริยา จึงสามารถนำไปใช้ได้ในหลายบริบท หรือสถานการณ์ ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้กันในฐานะคำกริยา และส่วนขยาย ที่แปลว่า ข้าม และลักษณะท่าทางการนั่ง 1 I saw a very big fish in the river as I was crossing the bridge yesterday morning. ไอ ซอว์ อะ เวริ บิก ฟิชช์ อิน เดอะ ริฟเวอะ แอส ไอ ว็อซ ครอสซิงก์ เดอะ บริดจ์ เยสเทอะเดย์ มอร์นิงก์ ( ฉันเห็นปลาตัวใหญ่มากในแม่น้ำ ขณะที่ฉันกำลังข้ามสะพานเมื่อเช้าวานนี้ ) 2 Jane is sitting with her legs crossed on the chair while Judy is sitting cross legged on the floor. เจน อิซ ซิททิงก์ วิดฬ์ เฮอร์ เลกส์ ครอสท์ ออน เดอะ แชร์ ไวล์ จูดี อิซ ซิททิงก์ ครอส เลกกิด ออน เดอะ ฟลอร์ ( เจนกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ขณะที่จูดีกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ) Cross ในประโยคที่ 1 อยู่ในรูป active voice และ past continuous tense ทำให้ต้องใช้ v. to be ในรูป was หรือรูปอดีต ส่วน cross ก็มีการเติม ing เป็น crossing มีควา