Posts

การออกเสียง du ในภาษาอังกฤษให้ถูกต้องเหมือนเจ้าของภาษา

เสียง du ในภาษาอังกฤษสามารถออกเสียงได้เป็นสองแบบ กล่าวคือในบางคำจะออกเป็นเสียงด เด็กในภาษาไทย  บางคำก็ออกเป็นเสียง จ จาน  เสียง du ที่เทียบได้เท่ากับเสียง ด เด็กในภาษาไทยมักจะเป็นคำที่มีพยางค์เดียว หรือคำที่มีหลายพยางค์แต่ du จะปรากฏอยู่ที่พยางค์แรก   ส่วนเสียงที่เทียบได้กับเสียง จ จาน มักจะอยู่ในคำที่มีสองหรือสามพยางค์ขึ้นไปและเสียง du จะอยู่ตรงกลางคำหรือท้ายคำเป็นส่วนใหญ่ du ที่ออกเสียงเป็น จ จาน นั้นคล้ายๆกับเป็นเสียงผสมระหว่างพยัญชนะ d กับสระ u หรือเทียบได้กับ ด เด็ก ผสมกับ ย ยักษ์ ส่วน du ที่ออกเป็นเสียง ด เด็กนั้นพยัญชนะและสระดังกล่าวไม่ได้ผสมกันแต่อย่างใด กล่าวคือเป็นเสียงของพยัญชนะ d อย่างเดียวส่วน u ก็ทำหน้าที่เป็นสระไป อย่างไรก็ตามการจะออกเสียงนี้ให้เหมือนเจ้าของภาษานั้นสำหรับเสียง du ทีออกเป็นเสียง ด เด็กในภาษาไทยให้ท่านเอาปลายลิ้นแตะฟันบน หรือหลังฟันบนแล้วเปล่งเสียง ด เด็กออกมา ส่วนที่ออกเสียงเป็น จ จานให้ท่านเอาปลายลิ้นแตะปุ่มเหงือกด้านในที่ อยู่ ถัดจากฟันบนหรือบริเวณระหว่างฟันบนกับเพดานแข็งแล้วเปล่งเสียง จ จานออกมา ลองฝึกการออกเสียงต่างๆดังกล่าวผ่านคำศัพท์และปร

บทสนทนาภาษาอังกฤษในสำนักงาน ตอนการส่งจดหมายทวงถาม

บทสนทนาภาษาอังกฤษในสำนักงานตอนการส่งจดหมายทวงถาม จะกล่าวถึงการพูดคุยเกี่ยวกับการส่งจดหมาย หรือถ้าในสมัยนี้ก็อาจจะเป็นการส่งจดหมายอิเล็คทรอนิคหรือ อีเมลก็ได้ ซึ่งอาจเป็นการพูดคุยระหว่าง เจ้านายกับลูกน้อง ผู้จัดการกับเลขาฯ หรือแม้แต่เพื่อนพนักงานด้วยกันที่ขอความช่วยเหลือกันในเรื่องการส่งจดหมายก็เป็นไปได้เช่นกัน เช่นอาจให้ช่วยส่งจดหมายหรืออีเมลทวงถามเรื่องต่างๆกับคู่ค้าหรือคู่ธุรกิจด้วยกัน เป็นต้น ดูตัวอย่างบทสนทนาดังกล่าวได้ต่อไปนี้ครับ บทสนทนาภาษาอังกฤษในสำนักงานตอนการส่งจดหมายทวงถาม ผู้จัดการ Jennifer, please just come in for a moment เจนนิเฟอรฺ พลีส จัสทฺ คัม อิน ฟอรฺ อะ โมเมนทฺ (เจนนิเฟอร์คุณช่วยเข้ามาในนี้หน่อยครับ) เจนนิเฟอร์ Wait a minute please. เว็ท อะ มินิท พลีส (ค่ะ สักครู่ค่ะ) เจนนิเฟอร์ What can I do for you, sir? ว็อท แคน ไอ ดู ฟอรฺ ยู เซอรฺ (มีอะไรให้ช่วยค่ะท่าน?) ผู้จัดการ  E-mail C Company, asking about the delay in its monthly installments. อี เมล ซี คัมพะนี อัสกิง อะเบาทฺ เดอะ ดีเลยฺ อิน อิทสฺ มันทฺลิ อินสตอลเมินทฺส (คุณช่วยส่งอ

การออกเสียง s ในภาษาอังกฤษให้ถูกต้องเหมือนเจ้าของภาษา

เสียง s ในภาษาอังกฤษอาจเทียบได้กับเสียง ส เสือ ษ ฤษี ศ ศาลาหรือ ซ โซ่ ของพยัญชนะไทยแต่ท่าทางการออกเสียงนั้นมีอยู่ว่าก่อนออกเสียงให้ท่านฉีกยิ้มกว้างๆก่อนแล้วพ่นลมออกมาระหว่างฟันขณะยิ้ม จากนั้นก็ออกเสียงพยางค์ที่มี s เป็น ส เสือ ศ ศาลา ษ ฤษี หรือบางทีอาจเป็น ซ โซ่ ก็ได้ขึ้นอยู่กับคำศัพท์แต่ละคำ ลอง ฝึกออกเสียง s ผ่านคำศัพท์และประโยค ตัวอย่างต่อไปนี้ครับ 1 ฝึกออกเสียง s ผ่านคำศัพท์ต่างๆ sad= แซ็ด (เศร้า) , safe= เซ็ฟ (ตู้นิรภัย ปลอดภัย) , salad= แซลเลิด (สลัดผัก ยำผักสด) , salary= แซลเล็อริ (เงินเดือน) , sale= เซล (การขาย) , salt= ซ็อลทฺ (เกลือ) , sample= แซมเพิล (ตัวอย่างสินค้า) , sand= แซนดฺ (ทราย) , sandwich= แซนดฺวิช (ขนมปังแซนวิช) , sanitary= แซนเน็อเทริ (สะอาด ถูกหลักอนามัย) , save= เซฟวฺ (ช่วยให้พ้นภัย ประหยัด) , say= เซยฺ (พูด) , scissors= ซิดซฺเซอซฺ (กรรไกร) , sea= ซี (ทะเล) , search= เซิรฺช (ค้น ค้นหา) , season = ซีเซิน (ฤดู ปรุงรส) , seat= ซีท (ที่นั่ง) , serve= เซิรฺฟวฺ (รับใช้ นำมาบริการ) , sister= ซิดซฺเตอะ (พี่สาว น้องสาว แม่ชี) , sit= ซิท (นั่ง

บทสนทนาภาษาอังกฤษสำหรับพนักงานขาย ประโยคที่ลูกค้ามักใช้พูดซื้อของ

หากท่านเป็นพนักงานขายหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าประจำตำแหน่งการขายในโชว์รูม ห้างร้านต่างๆ บทสนทนาข้างล่างนี้อาจมีประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อยครับ ส่วนมากเวลาลูกค้าต้องการสินค้าอะไรสักอย่างก็จะแวะเวียนมาที่ร้านเพื่อมองหา เลือกลองสินค้าที่พวกเขาต้องการ ประโยคที่ลูกค้าใช้พูดในสถานการณ์ดังกล่าวมีมากมายหลายแบบ เช่นอาจถามพนักงานว่าสินค้าอันนั้นอันนี้มีไหม หรืออาจบอกความต้องการก่อนเป็นอันดับแรกแล้วตามด้วยบทสนทนาอื่นๆตามมา อาจจะลองสินค้า แล้วบอกว่าอันนี้เป็นอย่างนั้น อันนั้นเป็นอย่างนี้ เล็กไปใหญ่ไปมีสีนู้นนี้ไหมอะไรเหล่านี้เป็นต้น ดูบทสนทนาต่างๆเหล่านั้นได้ต่อไปนี้ครับ บทสนทนาภาษาอังกฤษสำหรับพนักงานขาย ตอนประโยคที่ลูกค้ามักพูดเมื่อมาซื้อของ ลูกค้า I want to look at some t-shirts. ไอ วอนทฺ ทู ลุค แอ็ท ซัม ที เชิรฺตสฺ (ผมอยากดูเสื้อยืดหน่อยครับ) พนักงานขาย These are the most popular ones among teenagers for the time being. ดีซ อารฺ เดอะ โมสทฺ ป็อบปิวลารฺ วันสฺ อะมัง ทีนเอจเจอรฺส ฟอรฺ เดอะ ไทมฺ บีอิง (เสื้อยืดเหล่านี้ช่วงนี้กำลังเป็นที่นิยมที่สุดในหมู่วัยรุ่นครับ) ลูกค้า They are too